DoFollow NoFollow คืออะไร แบบไหนดีกว่ากัน ยังสำคัญอยู่ไหม

%รับทำ SEO%

มาพบกันอีกเช่นเคยวันนี้จะมาพูดถึงเรื่อง DoFollow NoFollow คืออะไร แบบไหนดีกว่ากัน ยังสำคัญอยู่ไหมวันนี้เราจะมาอธิบายให้ฟังจนหมดเปลือกเลย ที่เขาว่ากันว่า DoFollow ดีกว่า NoFollow จริงหรือปล่าว ? แต่ใครที่ยังไม่รู้ว่า Backlink คืออะไร ก็สามารถเข้าไปอ่านก่อนได้เลยจะได้ไม่ งง กันน่อ อ่าเรามาเริ่มกันเลยย !!

สารบัญ DoFollow NoFollow คืออะไร

การทำ Backlink หรือ Off-Page SEO เป็นเรื่องที่ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ในการทำให้เว็บไซต์ของเราได้ Bacllink กลับมายังเว็บไซต์ของเราจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ Backlink จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด หลักๆ คือ DoFollow ที่ช่วยส่งเรื่องของพลัง SEO แต่ NoFollow ที่ไม่ช่วยเรื่องของ SEO ใดๆ

DoFollow NoFollow คืออะไร
  1. DoFollow คือ การที่เว็บไซต์อื่นๆส่ง Backlink กลับมายังเว็บไซต์ของเราโดย DoFollow นี้ส่งพลังประโยชน์จาก SEO มายังเว็บไซต์ของเราได้ทั้ง Bot ได้ทั้ง พลังงานต่างๆของ SEO ลิ้ง DoFollow ส่วนมากจะอยู่ในบทความของเว็บไซต์นั้นๆ
  2. NoFollow คือ การที่เว็บไซต์อื่นๆส่ง Backlink กลับมายังเว็บไซต์ของเราโดย NoFollow จะไม่ส่งค่าพลังของ SEO มาเลย Bot ก็ไม่ได้ แต่บางครั้ง Bot ก็ผ่านมาได้แต่อาจจะน้อยมากที่จะผ่านลิ้ง NoFollow มาได้ ลิ้ง NoFollow ส่วนมากจะอยู่ในส่วนของ Comment, ลิ้งก์จากเว็บไซต์พวก Social Media

เอาละเราจะมาดูวิธีเช็คลิ้งก์ยังไงว่าเป็นลิ้งก์ DoFollow หรือ NoFollow เราจะมาสอนวิธีง่ายที่สุด ทุกคนสามารถทำได้ โดยเปิดบราวเซอร์ Chrome เเล้วกดคลิกขวาที่ลิ้งก์แล้วเลือก ตรวจสอบ ดังรูป

DoFollow NoFollow คืออะไร 3

เมื่อเราคลิกขาวแล้วเราก็จะได้ดังรูปด้านล่างนี้ ทำการตรวจสอบลิ้งก์เราได้เลย

DoFollow NoFollow คืออะไร 4

ลักษณะ ของลิ้ง DoFollow และ NoFollow

// <a href="https://munkongseo.com/">รับทำ SEO</a> // แบบนี้คือลิ้งก์ DoFollow
// < a href="https://munkongseo.com" rel="nofollow">รับทำเว็บไซต์</a > // แบบนี้คือลิ้งก์ NoFollow

ผมมาแล้วสำคัญอยู่บ้างในบางครั้ง แต่เว็บไซต์ของเราควรจะมีทั้งลิ้งค์ DoFollow และ NoFollow กับผสมกันไปไม่ใช่แค่ว่าจะคัดลอก Do มีทั้ง 2 แต่ถ้าถามว่าสมมุตว่ามีลิ้งค์ DoFollow อยู่ 50 ลิ้งค์แล้วมีลิ้งค์ไม่มีตามอยู่ 500 ลิ้งค์แบบไหนจะดีกว่ากันก็ต้องบอกว่า NoFollow 500 ลิ้งก์ดีกว่าแน่นอน แต่ก็ต้องให้พี่ Google พิจารณา เอาละ สุดท้ายนี้ก็คงได้ความรู้หลายอย่างเลยยอยังไงก็ขอขอบคุณที่มาอ่านกันน้าในเจอกันบทความต่อไป On–Page และ Off–Page กับผล SEO คืออะไร