ขนาดโฆษณา “display ads” ต้องเป็นเท่าไร? 

เมื่อคุณต้องการโฆษณาสินค้าหรือบริการของคุณให้มีผู้รู้จักมากขึ้น โฆษณา “display ads” เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ แต่หนึ่งในข้อจำกัดของโฆษณา “display ads” คือขนาดของโฆษณานั้น ต้องมีขนาดเท่าใดในการจัดแสดงบนหน้าเว็บไซต์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด?

การกำหนดขนาดของโฆษณา “display ads” ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พื้นที่ที่คุณต้องการจัดแสดงโฆษณา รูปแบบของโฆษณา และเป้าหมายของโฆษณา อย่างไรก็ตาม ขนาดโฆษณา “display ads” ที่เป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบันคือ 300×250 pixels หรือ 336×280 pixels ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมสำหรับการจัดแสดงบนหน้าเว็บไซต์ และสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ดี.

โฆษณา Display Ads คืออะไร

โฆษณา Display Ads เป็นโฆษณาที่ปรากฏขึ้นบนหน้าเว็บไซต์ โดยมักจะประกอบไปด้วยภาพ ข้อความ และลิ้งค์ที่เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือสินค้าที่ต้องการโฆษณา โฆษณาแบบนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ ส่งเสริมการขายสินค้า และเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ

ขนาดของโฆษณา Display Ads จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานของแต่ละเว็บไซต์ โดยมักจะมีขนาดต่างๆ ได้แก่ 300×250 pixels, 728×90 pixels, 160×600 pixels และอื่นๆ โดยขนาดของโฆษณาจะต้องไม่เกินขนาดที่กำหนดไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความไม่สมดุลในการแสดงผลของเว็บไซต์

การออกแบบโฆษณา Display Ads จะต้องเน้นการใช้สีสัน ภาพ และข้อความที่เข้ากับแนวคิดหรือสินค้าที่ต้องการโฆษณา เพื่อให้ผู้ชมสนใจและคลิกเข้าไปดูสินค้าหรือบริการของธุรกิจ

ในการเลือกสร้างโฆษณา Display Ads ควรพิจารณาด้วยความรอบคอบว่า มีกลุ่มเป้าหมายในการโฆษณาอย่างไร และเลือกช่องทางการโฆษณาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในการค้นหาสินค้าหรือบริการที่ต้องการ และวิเคราะห์ผลการโฆษณาเพื่อปรับปรุงและพัฒนาการโฆษณาให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

ขนาดของโฆษณา Display Ads

ขนาดมาตรฐาน

โฆษณา Display Ads มีขนาดมาตรฐานที่แตกต่างกันไปตามแต่ละแพลตฟอร์ม โดยทั่วไปแล้วขนาดมาตรฐานของ Display Ads จะอยู่ในช่วง 300 x 250 pixels ถึง 728 x 90 pixels โดยขนาดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือ 300 x 250 pixels และ 728 x 90 pixels โดยขนาดนี้จะเหมาะสำหรับการแสดงโฆษณาบนหน้าเว็บไซต์ และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในแพลตฟอร์ม Google Ads และ Facebook Ads

ขนาดที่แตกต่าง

นอกจากขนาดมาตรฐานแล้ว ยังมีขนาดที่แตกต่างกันไปตามแต่ละแพลตฟอร์ม อย่างเช่น บนแพลตฟอร์ม Google Ads จะมีขนาด Display Ads ที่มีความยาว 160 pixels ถึง 600 pixels และมีความกว้าง 200 pixels ถึง 970 pixels โดยขนาดที่ใช้งานอย่างแพร่หลายคือ 336 x 280 pixels และ 300 x 600 pixels

สำหรับ Facebook Ads จะมีขนาด Display Ads ที่แตกต่างกันไปตามประเภทของโฆษณา โดยขนาดที่ใช้งานอย่างแพร่หลายคือ 1200 x 628 pixels สำหรับโฆษณาใน Facebook Feed และ 1080 x 1080 pixels สำหรับโฆษณาใน Instagram Feed

ดังนั้น การเลือกขนาด Display Ads ที่เหมาะสมกับแพลตฟอร์มที่ใช้งานจะช่วยให้โฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการแก้ไขขนาดโฆษณาในภายหลัง

การเลือกขนาดโฆษณาที่เหมาะสม

ตามเป้าหมายการตลาด

เมื่อคุณต้องการเลือกขนาดโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับแคมเปญโฆษณาแสดงผล(Display Ads) ของคุณ คุณควรพิจารณาเป้าหมายการตลาดของคุณก่อน โดยคุณควรพิจารณาว่าเป้าหมายการตลาดของคุณคือใคร และต้องการให้ผู้ชมของคุณทำอะไรหลังจากเห็นโฆษณาของคุณ เช่น การเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ การซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ หรือการติดต่อกับคุณ

หากเป้าหมายการตลาดของคุณคือการเพิ่มยอดขายสินค้าหรือบริการ คุณควรเลือกขนาดโฆษณาที่มีขนาดใหญ่เพื่อดึงความสนใจของผู้ชม และเพิ่มโอกาสในการคลิกโฆษณาของคุณ อย่างไรก็ตาม หากเป้าหมายการตลาดของคุณคือการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ คุณควรเลือกขนาดโฆษณาที่เล็กกว่าเพื่อลดความสนใจของผู้ชมจากโฆษณาของคุณและเพิ่มโอกาสในการคลิกเพื่อเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ

ตามแพลตฟอร์มเป้าหมาย

หากคุณต้องการโฆษณาบนแพลตฟอร์มที่มีขนาดโฆษณาที่จำกัด เช่น Facebook หรือ Google Ads คุณควรตรวจสอบขนาดโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับแพลตฟอร์มนั้น โดยทั่วไปแล้ว ขนาดโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับ Facebook คือ 1200 x 628 พิกเซล และขนาดโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับ Google Ads คือ 336 x 280 พิกเซล

อย่างไรก็ตาม คุณควรตรวจสอบขนาดโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับแพลตฟอร์มที่คุณใช้ และปรับขนาดโฆษณาของคุณให้เหมาะสมกับแพลตฟ

การปรับขนาดโฆษณา Display Ads

เมื่อเราพูดถึงโฆษณาแบบ Display Ads หรือโฆษณาแสดงผล หมายถึงการแสดงผลโฆษณาบนหน้าเว็บไซต์ โดยมีขนาดต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ลงโฆษณา และพื้นที่ที่มีอยู่บนหน้าเว็บไซต์

การปรับขนาดของโฆษณา Display Ads เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการแสดงโฆษณา หากขนาดโฆษณาไม่เหมาะสมกับพื้นที่ที่มีอยู่บนหน้าเว็บไซต์ อาจจะทำให้ผู้เข้าชมไม่สนใจโฆษณานั้น หรือไม่สามารถเห็นโฆษณาได้เลย

ดังนั้น การปรับขนาดของโฆษณา Display Ads จึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน โดยควรใช้ขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่มีอยู่บนหน้าเว็บไซต์

ตารางขนาดของโฆษณา Display Ads ที่เป็นที่นิยม

โดยทั่วไปแล้ว ขนาดโฆษณา Display Ads ที่เป็นที่นิยมมีขนาด 300 x 250 และ 728 x 90 ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่มีอยู่บนหน้าเว็บไซต์ และสามารถแสดงผลได้ดีกับหลายแพลตฟอร์ม

ดังนั้น หากคุณต้องการลงโฆษณา Display Ads ควรพิจารณาขนาดโฆษณาที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่มีอยู่บนหน้าเว็บไซต์ และเลือกใช้ขนาดที่เหมาะสมกับแพลตฟอร์มที่ต้องการแสดงผลโฆษณาด้วย

ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง

เมื่อคุณกำลังออกแบบโฆษณา “display ads” คุณควรระมัดระวังกับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้โฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพและสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้อย่างมากที่สุด

นี่คือข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อออกแบบโฆษณา “display ads”:

• ขนาดของโฆษณาไม่เหมาะสม: คุณควรเลือกขนาดของโฆษณาที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่คุณต้องการแสดงโฆษณา หากโฆษณาของคุณมีขนาดใหญ่เกินไป อาจทำให้ผู้ชมไม่สนใจและเลิกดูโฆษณาของคุณได้ง่ายๆ
• การใช้สีไม่เหมาะสม: การใช้สีในการออกแบบโฆษณา “display ads” มีความสำคัญอย่างมาก คุณควรเลือกสีที่เหมาะสมกับแบรนด์และสื่อที่คุณใช้ แต่หากใช้สีไม่เหมาะสม อาจทำให้ผู้ชมไม่สนใจโฆษณาของคุณได้
• การใช้ภาพไม่เหมาะสม: การใช้ภาพในโฆษณา “display ads” เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับโฆษณาของคุณ แต่หากใช้ภาพไม่เหมาะสม อาจทำให้ผู้ชมไม่สนใจและเลิกดูโฆษณาของคุณได้
• การใช้ข้อความไม่เหมาะสม: การใช้ข้อความในโฆษณา “display ads” เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับโฆษณาของคุณ แต่หากใช้ข้อความไม่เหมาะสม อาจทำให้ผู้ชมไม่สนใจและเลิกดูโฆษณาของคุณได้
• การไม่ใช้ Call-to-Action (CTA): การใช้ CTA เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ชมกดคลิกโฆษณาของคุณ หา

การวัดผลโฆษณา Display Ads

เมื่อคุณทำการโฆษณาด้วย Display Ads คุณต้องการทราบว่าโฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพแค่ไหน วิธีการวัดผลโฆษณา Display Ads นั้นมีหลายวิธี ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถวัดผลได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

การวัดผลโดยการคลิก

วิธีการวัดผลโดยการคลิกนั้นเป็นวิธีที่สามารถวัดได้ง่ายและแม่นยำ โดยคุณสามารถใช้โปรแกรม Google Analytics เพื่อวัดผลการคลิกของโฆษณา Display Ads ของคุณได้ โดยโปรแกรมนี้จะช่วยให้คุณเห็นได้ว่าโฆษณาของคุณมีการคลิกเข้ามาดูและสนใจในสิ่งที่คุณโฆษณาหรือไม่

การวัดผลโดยการแสดงผล

การวัดผลโดยการแสดงผลนั้นเป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณเห็นได้ว่าโฆษณาของคุณมีการแสดงผลต่อกลุ่มเป้าหมายของคุณหรือไม่ โดยคุณสามารถใช้โปรแกรม Google AdWords เพื่อวัดผลการแสดงผลของโฆษณา Display Ads ของคุณได้ โดยโปรแกรมนี้จะช่วยให้คุณเห็นได้ว่าโฆษณาของคุณมีการแสดงผลต่อกลุ่มเป้าหมายของคุณหรือไม่

ขนาดของโฆษณา Display Ads

ขนาดของโฆษณา Display Ads นั้นสามารถแบ่งออกเป็นหลายขนาด โดยที่ขนาดที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ 300×250 pixels และ 728×90 pixels ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมกับการแสดงผลบนหน้าเว็บไซต์

สรุป

การวัดผลโฆษณา Display Ads นั้นสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งจะช่วยให้คุณวัดผลได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกใช้ขนาดของโฆ

สรุป

เมื่อคุณต้องการสร้างโฆษณา “display ads” คุณจะต้องคำนึงถึงขนาดของโฆษณาด้วย เพราะขนาดของโฆษณาจะมีผลต่อการแสดงผลของโฆษณาของคุณ การเลือกขนาดที่เหมาะสมจะช่วยให้โฆษณาของคุณมีผลสำเร็จมากขึ้น

โดยทั่วไปแล้ว ขนาดของโฆษณา “display ads” จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ขนาดพื้นฐาน (standard sizes) ขนาดพิเศษ (non-standard sizes) และขนาดที่กำหนดเอง (custom sizes) โดยขนาดพื้นฐานจะเป็นขนาดที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งประกอบด้วยขนาดต่างๆ ดังนี้

• 728 x 90 pixels (Leaderboard)
• 300 x 250 pixels (Medium Rectangle)
• 160 x 600 pixels (Wide Skyscraper)
• 300 x 600 pixels (Half Page Ad)
• 320 x 50 pixels (Mobile Leaderboard)
• 320 x 100 pixels (Large Mobile Banner)

การเลือกขนาดโฆษณาที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับลักษณะของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่คุณต้องการแสดงโฆษณา และก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการโฆษณาของคุณด้วย ดังนั้นคุณควรทำการวิเคราะห์และวางแผนการโฆษณาของคุณอย่างรอบคอบก่อนที่จะเลือกขนาดโฆษณาที่เหมาะสมกับคุณและกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ